Search This Blog

Sunday 20 November 2011

ตลาดที่อยู่อาศัยยังคงมีแนวโน้มผันผวนหลังผ่านสถานการณ์น้ำท่วม

คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำเผยว่า ปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ และความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อน้ำท่วมของบริเวณกรุงเทพฯชั้นใน ทำให้ยากต่อการประเมินสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยช่วงหลังน้ำลด แม้ว่าจะอยู่สถานการณ์ที่ดีที่สุดก็ตาม นายปฏิมา จีระแพทย์ กรรมการผู้จัดการของคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า ตลอดช่วงเวลาที่เหลือของไตรมาส การเปิดตัวโครงการที่พักอาศัยคงจะค่อนข้างเงียบตามสภาวะความรู้สึกของตลาดและปัญหาด้านการเดินทาง สถานการณ์จะไม่เหมือนกับช่วงหลังเกิดเหตุการณ์ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2553 ซึ่งผู้ซื้อกระโดดเข้าสู่ตลาดในทันที เพราะหลายคนคงจะระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับการตัดสินใจครั้งใหญ่ อย่างการซื้ออสังหาริมทรัพย์จนกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะยุติลง และมีการวิเคราะห์ผลที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ “รายละเอียดทั้งหมดต้องถูกเปิดเผยก่อนที่ผู้ซื้อจะเร่งหวนคืนสู่ตลาด และเจ้าของโครงการเองก็จำเป็นต้องประเมินโครงการต่างๆ ใหม่” นายปฏิมากล่าว

การตัดสินใจเลือกซื้อระหว่างบ้านพร้อมที่ดินกับคอนโดสูง อย่างหลังน่าจะได้เปรียบมากกว่าเมื่อคำนึงถึงปัจจัยเรื่องน้ำท่วม แต่ถึงแม้จะเป็นที่พักอาศัยในอาคารสูง ประชาชนก็ยังต้องพิจารณาว่าทำเลไหนเสี่ยงต่อน้ำท่วมน้อยกว่า “แม้ว่าที่อยู่อาศัยบนอาคารสูงของคุณจะไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แต่คุณก็คงไม่อยากอยู่ในบริเวณที่มีน้ำท่วมนานหลายสัปดาห์” นายปฏิมาชี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ซื้อหวนคืนสู่ตลาดหลังจากชะลอไปนาน น่าจะทำให้อุปสงค์ที่อั้นไว้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้มีการเปิดตัวโครงการต่างๆ ตามมาอีกหลายโครงการ นายโทนี พิคอนวิเคราะห์ว่า ความนิยมในคอนโดมิเนียมนั้นจะเพิ่มสูงขึ้นกว่าเมื่อครั้งที่ยังไม่เกิดอุทกภัย “เราสังเกตเห็นว่า ณ ขณะนี้ มีจำนวนผู้สูงอายุและเด็กมาพักอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากเจ้าของห้องชุดหลายคนได้ใช้ห้องพักเป็นที่พักอาศัยชั่วคราวสำหรับครอบครัวขยายของพวกเขา” นายโทนีอธิบาย ผลกระทบที่ตามมาจากน้ำท่วมจะทำให้ประชาชนจำนวนมากที่จำเป็นต้องย้ายไป อาศัยอยู่ตามศูนย์อพยพต้องพิจารณาทางเลือกของตนเสียใหม่ “คุณจะพบว่ามีหลายครอบครัวสนับสนุนให้สมาชิกในครอบครัวซื้อห้องในอาคารชุดรวมไปถึงการเสนอให้ความช่วยเหลือด้านการ เงินเนื่องจากห้องในอาคารชุดจะทำหน้าที่เป็นที่พักอาศัยสำรอง” นายโทนีชี้

ในตลาดกลุ่มผู้มีรายได้สูง เหตุผลเดียวกันนี้ ทำให้แนวโน้มในการซื้อบ้านหลังที่สองในบริเวณสถานที่พักตากอากาศอย่างหัวหินหรือพัทยา เพิ่งสูงขึ้น “หลายๆ คนหนีไปยังสถานที่ตากอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มคนที่ไม่มีความจำเป็นต้องทำงานในกรุงเทพฯอย่างเด็กและคนชรา” นายมนต์ชัย อรวงศ์ไพศาล ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขายโครงการที่พักอาศัยระบุ แรงกดดันจากครอบครัวอาจส่งผลให้มีการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่สำหรับการพักผ่อนในช่วงสุดสัปดาห์เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นที่พักอาศัยสำรองด้วย “เราจะเห็นการเคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญของตลาดในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า โดยแนวโน้มอยู่ที่หัวหิน พัทยาและสถานที่ตากอากาศใกล้กรุงเทพฯ” นายมนต์ชัยให้ข้อมูลเพิ่มเติม

แม้อาคารสูงจะเป็นที่นิยมมากกว่า แต่อสังหาริมทรัพย์พร้อมที่ดินก็ยังคงมาแรงในกรุงเทพฯ คำเตือนเรื่องโลกร้อนก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วมบ่อยครั้งยิ่งขึ้น รวมถึงน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดจากฝนตกหนัก ส่งผลให้ประชาชนมีแนวโน้มจะเลือกบ้านยกพื้นสูงซึ่งสะท้อนวิถีชีวิตทั่วไปในอดีต “หลายๆ ประเทศได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและบ้านยกพื้นสูงเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยมีนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ รวมทั้งการปูพื้นด้วยไม้เนื้อแข็ง” นายโทนีกล่าว อสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบดังกล่าวยังมีส่วนช่วยให้น้ำไหลผ่านกรุงเทพฯได้เร็ว ขึ้น “เป็นวิธีพื้นฐานในการยอมรับสภาพธรรมชาติและ ปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติแทนการเผชิญหน้า” นายโทนีเสริม

นายโทนีชี้ว่า ผู้ซื้อมีปัญหาในการหาทำเลที่เสี่ยงต่ออุทกภัยน้อยเนื่องจากผลกระทบจากน้ำท่วมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย “ประการแรก น้ำท่วมเป็นผลจากน้ำที่ไหลบ่าลงมาจากภาคเหนือ ฝนตกหนักและน้ำทะเลหนุนในเดือนพฤศจิกายน ผลของแต่ละปัจจัยทำให้สถานการณ์น้ำท่วมแต่ละครั้งแตกต่างกัน ซึ่งทำให้บริเวณที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยแตกต่างกันด้วย” นายโทนีกล่าว ปัจจัยอื่นๆ ได้แก่ระบบการป้องกันน้ำท่วมอันสลับซับซ้อนของกรุงเทพฯ การบริหารจัดการโดยนักการเมืองและข้าราชการซึ่งลำดับความสำคัญอาจเปลี่ยนแปลงได้ “ถ้าครั้งนี้น้ำท่วมทั่วกรุงเทพฯ ผู้ซื้อจะตัดสินใจเลือกทำเลที่เหมาะสมได้ลำบากในอนาคต” นายโทนีเตือน

No comments:

Post a Comment