Search This Blog

Sunday 24 July 2011

ตลาดคอนโดยังคงสดใสและแข็งแกร่ง แม้จะมีสัญญาณเตือนภัยให้เห็นอยู่รำไร


รายงานฉบับล่าสุดของคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย (Colliers International Thailand) เผยให้เห็นว่า ตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2554 ยังคงสดใสต่อเนื่องจากการรุกทำกิจกรรมในช่วงครึ่งหลังของปี 2553 ในไตรมาสที่สองนี้ มีอาคารชุดประมาณ 11,900 ยูนิต เปิดตัวสู่ตลาดซึ่งเพิ่มขึ้น 9.6% จากไตรมาสก่อน ยูนิตที่เปิดตัวใหม่บริเวณใจกลางกรุงเทพฯและชานเมืองกรุงเทพฯมีจำนวนใกล้เคียงกัน และเป้าหมายคือกลุ่มตลาดราคาย่อมเยาและใกล้เส้นทางขนส่งมวลชน

ข่าวเด่นประจำไตรมาสได้แก่การเปิดตัวโนเบิล เพลินจิตขนาด 1,442 ยูนิต เพียงวันแรกก็ทำยอดขายได้ถึงประมาณ 700 ยูนิต นายปฏิมา จีระแพทย์ กรรมการผู้จัดการบริษัทคอลลิเออร์สฯ ประเทศไทย เชื่อว่าอนาคตของกรุงเทพฯมีแววสดใสรุ่งโรจน์ “ความสำเร็จอันงดงามในการเปิดตัวโครงการทั้งๆ ที่เป็นช่วงเลือกตั้งซึ่งมีความผันผวนสูงนั้น แสดงให้เห็นว่าคนไทยไม่ได้หวั่นวิตกมากนัก” นายปฏิมาตั้งข้อสังเกตว่าขนาดห้องซึ่งค่อนข้างเล็กและส่วนใหญ่เป็นห้องประเภทหนึ่งห้องนอนนั้น แสดงให้เห็นว่าแม้แต่โครงการระดับบนยังคำนึงถึงกำลังซื้อ และยังกล่าวเสริมด้วยว่า “บริษัทผู้พัฒนาโครงการสำหรับลูกค้าทุกกลุ่มลดขนาดห้องชุดลงเพื่อดึงดูดอุปสงค์ของผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะซื้อเพิ่มขึ้น” นายปฏิมาพอใจที่โนเบิล เพลินจิตและโครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซีซึ่งอยู่ในระหว่างก่อสร้างจะเติมช่องว่างระหว่างชิดลมถึงต้นถนนสุขุมวิท “ฝั่งตะวันออกของเพลินจิตค่อนข้างจะร้างมาสักพักแล้ว” นายปฏิมาอธิบาย
ลุมพินี วิลล์ พัฒนาการ – เพชรบุรีตัดใหม่ของแอลพีเอ็น ดีเวลล็อปเมนท์ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวในไตรมาสที่ 2 ยอดจองในช่วงเปิดตัวอยู่ที่ 70% จาก 1,605 ยูนิต ฝั่งใต้เองก็ไม่น้อยหน้า ยอดจองช่วงเปิดตัวพรีมา พระราม 3 - นราธิวาส ของศุภาลัยอยู่ที่ 80% โดยราคาขายเริ่มต้นที่ 56,000 บาท ต่อ ตร.ม. ระบบขนส่งมวลชนยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในตลาด โดยโครงการในระยะ 200 เมตร จากสถานีนั้น ตั้งราคาขายได้สูงกว่าและมียอดจองมากกว่าโครงการที่อยู่ห่างออกไป

แม้ว่าคอลลิเออร์สฯยังคงเชื่อมั่นว่า ตลาดคอนโดมิเนียมจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่นายแอนโทนี พิคอน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของคอลลิเออร์สฯได้กล่าวเตือนว่า “เนื่องจากยังมีอีกหลายโครงการที่อยู่ในระหว่างก่อสร้าง และอัตราค่าแรงขั้นต่ำที่มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นอาจส่งผลให้ต้นทุนการก่อสร้างในอนาคตเพิ่มขึ้น” นายพิคอนเตือน แรงกดดันจากเงินเฟ้อที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นไปอีก ซึ่งนายพิคอนกังวลว่าดอกเบี้ยสูงจะเป็นผลร้ายต่อผู้กู้ “ถ้าดอกเบี้ยสูงขึ้นถึงระดับหนึ่ง ผู้กู้จะชำระไม่ไหว และแม้ว่าวันนี้ยังไม่มีปัญหา แต่เศรษฐกิจที่ร้อนแรงเกินไปอาจกลายเป็นปัญหาเพราะการใช้จ่ายเกินตัว” นายพิคอนเสริม

โครงการใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในไตรมาสที่ 2 ของปี 2554 เพิ่มขึ้น 9.6% จากไตรมาสที่ 1 ของปี 2554 ห้องชุดประมาณ 11,900 ยูนิตจะออกสู่ตลาด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดยังคงสดใสหลังจากครึ่งปีหลังของปี 2553 มีการเปิดตัวโครงการไปแล้วหลายโครงการ

ราคาขายเฉลี่ยสำหรับบริเวณใจกลางเมืองแตะระดับสูงสุดที่กว่า 130,000 บาทต่อ ตร.ม. ซึ่งสูงกว่าราคาขายเฉลี่ยในกรุงเทพฯถึง 45% ราคาขายเฉลี่ยในบริเวณชานเมืองฝั่งตะวันออกสูงเป็นอันดับสอง เนื่องจากบริษัทผู้พัฒนาโครงการซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งหนึ่งกำลังพัฒนาโครงการหนึ่งในย่านนี้ซึ่งราคาขายสูงกว่า 120,000 บาทต่อ ตร.ม.

http://www.colliers.co.th